5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมกำหนดให้ วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้
         1. เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสู่พระราชสมบัติตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย
         2. เป็นวันชาติ : เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย เดิมกำหนดให้วันที่ ๒๔ มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันชาติ เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต่อมาใน พ.ศ. 2503 ได้เปลี่ยนมาเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์ไทย ตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ปัจจุบันจึงตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี
         3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ : วันพ่อแห่งชาติ มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่มหลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อแห่งชาติ เพราะพ่อเป็นผู้มีพระคุณที่มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกให้ความเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.9) ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงรักใคร่และให้ดอกพุทธรักษาเป็นสัญลักษณ์ของวันพ่อแห่งชาติ
          ตั้งแต่พุทธศักราช 2502 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไป ทรงกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ เอเชีย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ ทุกภาคทรงประจักษ์ในปัญหาของราษฎร ในชนบทที่ดำรงชีวิตด้วยความยากจน ลำเค็ญและด้อยโอกาส ได้ทรงพระวิริยะอุตสาหะหาทางแก้ปัญหาตลอดมาตราบจนปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ทุกหนทุกแห่งบนผืนแผ่นดินไทยที่รอยพระบาทได้ประทับลง ได้ทรงขจัดทุกข์ยากนำความผาสุกและทรงยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ด้วยพระบุญญาธิการและพระปรีชาสามารถปราดเปรื่อง พร้อมด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร และเพื่อความเจริญพัฒนาของประเทศชาติตลอดระยะเวลาโดยมิได้ทรงคำนึงประโยชน์ สุขส่วนพระองค์เลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานโครงการนานัปการมากกว่า 4,000 โครงการ ทั้งการแพทย์สาธารณสุข การเกษตร การชลประทาน การพัฒนาที่ดิน การศึกษา การพระศาสนา การสังคมวัฒนธรรม การคมนาคม ตลอดจนการเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรในชนบท ทั้งยังทรงขจัดปัญหาทุกข์ยากของประชาชนในชุมชนเมือง เช่น ทรงแก้ปัญหาการจราจร อุทกภัย และปัญหาน้ำเน่าเสียในปัจจุบัน ได้ทรงริเริ่มโครงการการช่วยสงเคราะห์ และอนุรักษ์ช้างไทยอีกด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรากตรำพระวรกายทรงงานอย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย แม้ในยามทรงพระประชวร ก็มิได้ทรงหยุดยั้งพระราชดำริเพื่อขจัดความทุกข์ผดุงสุขแก่พสกนิกร กลางแดดแผดกล้าพระเสโทหลั่งชุ่มพระพักตร์และพระวรกายหยาดตกต้องผืนปฐพี ประดุจน้ำทิพย์มนต์ชโลมแผ่นดินแล้งร้างให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์นับแต่ เสด็จเถลิงถวัลย์ราชย์ตราบจนปัจจุบัน แม้ในยามประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ก็ได้พระราชทานแนวทางดำรงชีพแบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “ทฤษฎีใหม่” ให้ราษฎรได้พึ่งตนเอง ใช้ผืนแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดประกอบอาชีพอยู่กินตามอัตภาพซึ่งราษฎร ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นผลดีอยู่ในปัจจุบัน

วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตร และทรงติดตามความก้าวหน้า ด้านการดำเนินงาน โครงการเกษตรรวมใจอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ซึ่งเป็นโครงการที่กองทัพบก ดำเนินงานสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรื่องการใช้พื้นที่ว่างเปล่าของทหาร ทำให้เกิดประโยชน์ต่อทหารและประชาชน ในด้านการฝึกอบรมวิชาชีพเกษตรเบ็ดเสร็จ เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปี ๒๕๒๒ มีกรมการสัตว์ทหารบก เป็นหน่วยงานหลัก อบรมให้ความรู้เรื่องเกษตรพอเพียง เกษตรปลอดภัย ผลิตและแจกจ่ายพันธุ์สัตว์และพันธุ์พืชให้แก่ผู้สนใจ ปัจจุบันมีพื้นที่ดำเนินงาน ๘๑๑ ไร่ มี ๔ โครงการ ได้แก่ โครงการประมงน้ำจืด โครงการปลูกพืช มี ๖ กิจกรรม ได้แก่ ปลูกผักโตเร็ว ปลูกผักไร้ดิน ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ สาธิตไม้ผล ทำนาข้าว และปลูกผักกางมุ้ง โครงการส่งเสริมอาชีพการแปรรูปผลผลิตจากการเกษตร ได้แก่ กิจกรรม การแปรรูปหม่อนผลสด และโครงการการเลี้ยงสัตว์ปีกและสัตว์เคี้ยวเอื้อง มี ๓ กิจกรรม คือ กิจกรรม การเลี้ยงสัตว์ปีก กิจกรรมการเลี้ยงกระบือ กิจกรรมการเลี้ยงโคนม และเสด็จพระราชดำเนิน ทอดพระเนตร การดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ การดำเนินของงานศูนย์ทดลองเลี้ยงแพะพันธุ์ผสมพระราชทาน เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่อง การเลี้ยงแพะ การผสมพันธุ์แพะ มีการทดลองผสมข้ามสายพันธุ์แพะเพื่อพัฒนาให้ได้สายพันธุ์ที่ทนต่อ สภาพอากาศในเขตภาคกลาง เติบโตเร็ว อัตราการให้เนื้อสูง จำหน่ายได้ราคาดี เป็นต้นแบบเพื่อพระราชทานแก่ประชาชนต่อไป ณ โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก โดยมี พลตรี รณรงค์ โรจนเสน เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ